เกียรติยศแห่งชัยชนะ
สนามแข่งขันเรือยาวประเพณีแม่น้ำหลังสวน
กัณฐ์เกษม จาวยนต์/ เอกพงษ์ ศรีกลิ่น : เรียบเรียง

การแข่งขันเรือยาวประเพณีที่สนามแข่งเรือแม่น้ำหลังสวน ท่าน้ำวัดด่านประชากร ในระยะยะแรกเริ่ม ผู้เฒ่าผู้แก่ เล่าว่า ไม่มีการมอบรางวัลใดๆไม่ว่าถ้วยรางวัลหรือเงินรางวัล เป็นการแข่งขันเพื่อความสนุกสนาน สร้างความสามัคคี หลังจากที่ได้ทำบุญตักบาตรกันมาแล้วในตอนเช้าของวันออกพรรษา ไม่ได้มีกฎเกณฑ์กติกาอะไรมาก เรือที่พายแข่งชนะหนึ่งเที่ยวก็จะได้รับผ้าแถบไปหนึ่งผืน ขนาดผ้าผืนเล็กกว่าผ้าขาวม้า และเมื่อได้รับผ้าแถบมาแล้ว นายหัวเรือจะนำมาผูกไว้ที่โขนเรือ เอาไว้อวดกัน มาสมัยหลังๆผ้าแถบมีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อเรือชนะหลายๆเที่ยวก็จะได้ผ้าแถบไปหลายผืน เสร็จงานแข่งเรือกันแล้วก็จะนำผ้าแถบไปเย็บเป็นผ้าม่านถวายให้วัดไว้ได้ใช้งานต่อไป
พ.ศ. ๒๔๘๒ "ขันน้ำพานรองแสงอาทิตย์"


ในปี พ.ศ. ๒๔๘๒ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์จ้าอาทิตย์ทิพยอาภา (พระโอรสพระองค์แรกในพระเจ้าบรมวงศ์ เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ประสูติแต่พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทิพยสัมพันธ์) พระองค์ทรงทำหน้าที่ ประธาน คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระปรมนทรมหาอานันทมหิดลฯ (รัชกาลที่ ๘) ได้ประทาน "ขันน้ำพานรองแสงอาทิตย์" ให้เป็นรางวัลชนะเลิศการแข่งขัน นับเป็นถ้วยรางวัลแรกของการแข่งเรือยาวประเพณีที่หลังสวน โดยมีเงื่อนไขว่า เรือลำนั้นต้องชนะเลิศติดต่อกัน ๓ ปี จึงจะได้กรรมสิทธิ์ไปถือครอง
เรือสิงห์ทอง สังกัดวัดวาลุการาม (วัดแหลมทราย) เป็นเรือลำแรกที่ชนะเลิศรางวัลขันน้ำพานรองใบนี้ ถึง ๒ ปี ติดกัน สลับต่อด้วยเรืออรุณวารี วัดสว่างมนัส ๒ ปี แล้วเรือสิงห์ทอง กลับมาชนะเลิศในอีก ๒ ปีถัดมา สุดท้าย เรือแม่นางสร้อยทอง สังกัดวัดบรรพควิสัย(วัดในเขา) เป็นผู้ชนะเลิศ ๓ ปีติดกัน จึงได้ขันน้ำพานรองใบนี้ไปถือครองเป็นกรรมสิทธิ์
ปัจจุบันขันน้ำพานรองใบประวัติศาสตร์นี้ได้ถูกเก็บรักษาไว้ที่วัดบรรพตวิสัย (วัดในเขา) อำเภอหลังสวนจังหวัดชุมพร
หลังจากนั้นในปี พ.ศ. ๒๔๙๑ เป็นต้นมา คณะกรรมการจัดงาน ได้จัดทำโล่รางวัลขึ้นมา สำหรับเรือที่ชนะเลิศการแข่งขัน โดยใช้กติกาเดียวกับการได้รับรางวัลขันน้ำพานรองของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา
การจัดงานประเพณีฯในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ เรือที่ชนะเลิศการแข่งขัน คือเรือชัยเทพมังกร สังกัดวัดขันเงิน