ระเบียบการแข่งขันเรือยาวขึ้นโขนชิงธง
งานประเพณีแห่พระแข่งเรือขึ้นโขนชิงธงชิงโล่และถ้วยพระราชทาน
อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร
ณ สนามแข่งเรือแม่น้ำหลังสวน (ท่าน้ำวัดด่านประชากร)
วันที่ ๑๘ - ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗

๑. กำหนด วัน เวลา การแข่งขัน

  • ๑.๑ เรือประเภทฝีพายภายในตำบล
          เริ่มทำการแข่งขัน ในวันที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ตั้งแต่เวลา ๑๔.๓๐ น. ถึง เวลา๑๘.๐๐ น. โดยจะทำการแข่งขัน สลับกับเรือประเภทเรืออนุรักษ์ (เรือขุด) และหากการแข่งขันไม่แล้วเสร็จให้ไปทำการแข่งขันในวันถัดไปในวันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น. เป็นต้นไป
  • ๑.๒ เรือประเภทเรืออนุรักษ์ (เรือขุด)
          เริ่มทำการแข่งขันในวันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ โดยจะทำการแข่งขันสลับกับเรือเรือประเภทฝีพายในตำบล โดยจะทำการแข่งขันถึงเวลา ๑๘.๐๐ น. และหากการแข่งขันไม่แล้วเสร็จ ให้ไปทำการแข่งขันในวันถัดไป ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น.เป็นต้นไป
  • ๑.๓ เรือประเภทฝีพายภายในจังหวัดชุมพร
          เริ่มทำการแข่งขันในวันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ โดยจะทำการแข่งขันถึงเวลา ๑๘.๐๐ น. และหากการแข่งขันไม่แล้วเสร็จ ให้ไปทำการแข่งขันในวันถัดไป ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น. เป็นต้นไป
  • ๑.๔ เรือประเภทฝีพาย นักเรียน/เยาวชน
           เริ่มทำการแข่งขันในวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ โดยจะทำการแข่งขันสลับกับเรือเรือประเภทฝีพายทั่วไป ทำการแข่งขันถึงเวลา ๑๘.๐๐ น. และหากการแข่งขันไม่แล้วเสร็จ ให้ไปทำการแข่งขันในวันถัดไป ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น. เป็นต้นไป
  • ๑.๕ เรือประเภทฝีพายทั่วไป
           เริ่มแข่งขันในวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ โดยจะทำการแข่งขันสลับกับเรือเรือประเภทฝีพายนักเรียนและเยาวชน ทำการแข่งขันถึงเวลา ๑๘.๐๐ น. และหากทำการแข่งขันไม่แล้วเสร็จ ให้ไปทำการแข่งขันในวันถัดไป วันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น. เป็นต้นไป จนเสร็จสิ้นการแข่งขัน
  • หมายเหตุ
    เรือที่เข้าทำการแข่งขันทุกประเภท หากมีการเปลี่ยนแปลงจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของฝ่ายจัดการแข่งขัน

๒. การสมัครเข้าแข่งขัน

  • ๒.๑ 
    ผู้แทนเรือรับใบสมัครได้ที่ทำการชมรมกำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ตั้งแต่ วันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ถึง วันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗
  • ๒.๒ 
    ส่งใบสมัครได้ที่ฝ่ายรับสมัครและเปรียบเรือ ที่ทำการชมรมกำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน อำเภอหลังสวน ภายในวันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ โทรศัพท์ ๐๘๒-๔๒๙๗๙๘๗
  • ๒.๓ 
    ผู้แทนเรือทุกประเภทต้องเข้าประชุมเกี่ยวกับการจับฉลากแบ่งสายการแข่งขัน ในวันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอหลังสวน (ชั้น ๒)
  • ๒.๔ 
    เรือประเภทฝีพายภายในตำบล เรือประเภทนักเรียน/เยาวชน และเรือประเภทฝีพาย ภายในจังหวัด ชุมพร ให้ส่งหลักฐานตามที่ฝ่ายจัดการแข่งขันกำหนด ภายในวันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ (ถ้าไม่ ส่งตามที่กำหนดถือว่าเรือลำนั้นสละสิทธิ์การแข่งขัน)
  • ๒.๕ 
    เรือประเภทฝีพายทั่วไป ให้ส่งหลักฐานภายในวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ก่อนเวลา ๐๙.๐๐ น. ณ ฝ่ายตรวจสอบคุณสมบัติฝีพายเรือและจับฉลากแบ่งสายการแข่งขันในวันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ เวลา ๑๗.๓๐ น. ณ ฝ่ายจัดการแข่งขัน (หลังสำนักงานเทศบาลเมืองหลังสวน)

๓. การจัดการแข่งขัน

  • ๓.๑ 
    เรือทุกประเภทที่สมัครเข้าทำการแข่งขัน ถ้าไม่เกิน ๑๔ ลำ แบ่งเป็นสายพายพบกันหมด และในสาย พายเปลี่ยนสายน้ำ หากมีเรือสมัครเข้าทำการแข่งขัน ๑๕ ลำขึ้นไป แบ่งเป็นสายพายไม่เปลี่ยนสายน้ำ ในรอบแรก ยกเว้นรอบก่อนรองชนะเลิศเป็นต้นไป ให้พายเปลี่ยนสายน้ำและพบกันหมดในสาย เอา เรือที่คะแนนอันดับหนึ่งและอันดับสองของสายเข้าแข่งขันในรอบต่อไป
  • ๓.๒ 
    การแข่งขันรอบแรก จัดแบ่งสายการแข่งขันตามจำนวนเรือที่สมัครเข้าทำการแข่งขันโดยมีเรือในแต่ ละสาย ไม่เกิน ๔ ลำ เพื่อคัดเรือผู้ชนะอันดับที่หนึ่งและอันดับที่สองของแต่ละสายเข้าแข่งขันใน รอบสอง
  • ๓.๓ 
    การแข่งขันรอบสอง แบ่งสายการแข่งขันออกเป็นสองสาย หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับเรือที่สมัครเข้า ร่วมการแข่งขันในรอบแรก เพื่อคัดเลือกเรือผู้ชนะอันดับที่หนึ่งและอันดับที่สองของแต่ละสายเข้า แข่งขันในรอบต่อไป
  • ๓.๔ 
    การแข่งขันในรอบก่อนรองชนะเลิศ แบ่งสายการแข่งขันออกเป็นสองสาย เพื่อคัดเรือผู้ชนะอันดับ ที่หนึ่งและที่สองเข้าแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ
  • ๓.๕ 
    การแข่งขันรอบรองชนะเลิศ เรือผู้ชนะอันดับที่หนึ่งของสายที่หนึ่ง พบกับเรือผู้ชนะอันดับที่สอง ของสายที่สอง และเรือผู้ชนะอันดับที่หนึ่งของสายที่สองพบกับผู้ชนะอันดับที่สองของสายที่หนึ่ง
  • ๓.๖ 
    การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เรือผู้ชนะในรอบรองชนะเลิศเข้าชิงชนะเลิศ และเรือผู้แพ้เข้าชิงที่สาม

๔. ข้อปฏิบัติในการส่งเรือเข้าแข่งขัน

  • ๔.๑ 
    ในวันเปิดการแข่งขันเรือทุกลำที่สมัครเข้าแข่งขันต้องมาร่วมขบวนพาเหรดเรือ ตามวัน เวลาและ แผนผังที่คณะกรรมการจัดการแข่งขันกำหนด
  • ๔.๒ 
    ให้มีผู้แทนเรือสังกัดละ ๒ คน โดยคนหนึ่งไปทำหน้าที่กรรมการตัดสินบนเรือตัดสินทุกวัน ถึงแม้ วันใดเรือของตนจะไม่ลงทำการแข่งขันแล้วก็ตาม ส่วนอีกคนหนึ่งไปทำหน้าที่ที่จุดกรรมการตรวจ สอบคุณสมบัติฝีพาย ในกรณีที่ผู้แทนเรือทั้งสองคนไม่ได้ไปปฏิบัติหน้าที่ตามจุดที่กำหนด ถือว่า ให้คณะกรรมการที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ทำหน้าที่แทน และผู้แทนเรือไม่สามารถประท้วงหรือเรียกร้อง ใดๆต่อคณะกรรมการจัดการแข่งขันได้
  • ๔.๓ 
    ผู้แทนเรือต้องมีป้ายแสดงตนการเป็นผู้แทนเรือโดยฝ่ายจัดการแข่งขันเป็นผู้ออกให้และจะต้องมีชื่อ ตรงกับในใบสมัคร
  • ๔.๔ 
    ฝีพายเรือทุกลำต้องปฏิบัติตามมารยาทที่ดี และปฏิบัติตามระเบียบและกติกาการแข่งขันทุกประการ หากพบว่าฝีพายเรือลำใดมีมารยาทไม่สุภาพหรือส่อเจตนาเล่นผิดกติกา ทางคณะกรรมการจัดการ แข่งขัน พิจารณาให้ออกจากการแข่งขันได้
  • ๔.๕ 
    เรือลำใดมีเจตนาไม่เข้าแข่งขันในขณะที่กำลังดำเนินการแข่งขันอยู่จากการประท้วง ผลการตัดสิน ของคณะกรรมการการตัดสิน และไม่ยอมทำการแข่งขันอีกหลังจากที่คณะกรรมการจัดการแข่งขัน ให้เวลาตัดสินใจ ๕ นาที นับตั้งแต่เวลาที่คณะกรรมการแจ้งให้ทราบ ให้ถือว่าเรือลำนั้นผิดมารยาท อย่างร้ายแรง (หักค่าลากจูงหรือค่าบำรุงทีม)
  • ๔.๖ 
    การตรวจสอบฝีพายตรวจเฉพาะลำที่ชนะในการแข่งขันในเที่ยวนั้นๆ โดยให้นำเรือเข้าตรวจสอบ ฝีพาย ณ จุดตรวจสอบฝีพายก่อนเข้าที่พัก และหากเรือลำนั้นๆไม่ยอมเข้าตรวจสอบให้ปรับแพ้ใน เที่ยวนั้นทันที ในส่วนที่เรือเสมอให้ตรวจสอบทั้งสองลำโดยการตรวจสอบฝีพายเป็นหน้าที่ของ กรรมการฝ่ายตรวจสอบโดยมีตัวแทนเรือเป็นผู้สังเกตการณ์
  • ๔.๗ 
    เรือทุกลำตลอดจนฝีพาย นายหัวเรือ นายท้ายเรือ ต้องยอมรับคำตัดสินของคณะกรรมการตัดสิน และเมื่อตัดสินออกไปแล้วถือว่าเด็ดขาดและสิ้นสุด
  • ๔.๘ 
    หากเรือที่เข้าแข่งขันลำใดเกิดอุบัติเหตุหรือได้รับความเสียหายด้วยประการใด ๆก็ตาม จะเรียกร้อง เอาค่าเสียหายจากคณะกรรมการจัดการแข่งขันไม่ได้
  • ๔.๙ 
    เรือคู่ที่เข้าทำการแข่งขัน ต้องเข้าเทียบทุ่นปล่อยเรือพร้อมที่จะทำการแข่งขันภายในเวลา ๕ นาที หลังจากปล่อยเรือคู่แข่งขันออกจากเรือปล่อยไปเรียบร้อยแล้ว
  • ๔.๑๐
    เรือทุกประเภทที่สมัครเข้าทำการแข่งขันต้องสังกัด วัด สถาบันการศึกษา หรือองค์กรของรัฐ และ จะต้องปิดป้ายชื่อเรือทุกลำ และเมื่อใช้เรือลำใดสมัครเข้าทำการแข่งขันต้องใช้เรือลำนั้นเข้าทำการ แข่งขันเท่านั้น โดยไม่สวมชื่อเรืออื่นเข้าทำการแข่งขัน เว้นแต่เรือที่สมัครเกิดอุบัติเหตุไม่สามารถ ทำการแข่งขันได้ ตามความเห็นของคณะกรรมการ จึงสามารถเปลี่ยนเรือได้
  • ๔.๑๑
    เรือทุกลำที่เข้าทำการแข่งขันต้องมีโขนเรือ ลักษณะของโขนเรือ ต้องเป็นโขนต่อ ความยาวไม่ น้อยกว่า ๒ เมตร ๕๐ เซนติเมตร และสามารถรองรับน้ำหนักนายหัวเรือขณะขึ้นโขนได้
  • ๔.๑๒
    เรือทุกลำที่เข้าทำการแข่งขัน ขณะทำการแข่งขัน นายหัวเรือต้องนั่งบนธงเหิรเท่านั้น ลักษณะ ของธงเหิรความยาวจากหัวตัดถึงธงเหิรไม่เกิน ๑ เมตร ๒๐ เซนติเมตร และนายหัวเรือต้องขึ้น โขนเรือทุกเที่ยวการแข่งขันเพื่อเป็นการรักษาเอกลักษณ์ของการแข่งขันเรือยาวแม่น้ำหลังสวน โดยนายหัวเรือต้องขึ้นโขนเรือและจับธงได้ ไม่ตกน้ำถือว่าชนะการแข่งขัน
  • ๔.๑๓
    เรือทุกลำที่สมัครเข้าทำการแข่งขัน ต้องส่งหลักฐานต่าง ๆ ที่ฝ่ายจัดการแข่งขันภายในวันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ หากในวันดังกล่าวส่งหลักฐานไม่พร้อม ถือว่าเรือลำนั้นสละสิทธิ์ในการ แข่งขันยกเว้น เรือประเภททั่วไป ให้ส่งภายในวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ ฝ่ายตรวจสอบคุณสมบัติฝีพายเรือ
  • ๔.๑๔
    เรือทุกประเภทที่สมัครเข้าทำการแข่งขัน ต้องส่งเรือเข้าทำการแข่งขัน มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ์การ ส่งเรือ ๓ ปีติดต่อกันหากสมัครเข้าทำการแข่งขันแล้ว และไม่นำเรือเข้าทำการแข่งขันครบตาม จำนวนที่สมัครไว้ในแต่ละประเภทเรือลำที่จะเข้าทำการแข่งขันก็ถูกตัดสิทธิ์ไปด้วยในปีนั้นๆ และ จะตัดสิทธิ์การแข่งขัน ๓ ปีติดต่อกัน
  • ๔.๑๕
    เรือที่เข้าทำการแข่งขันทุกประเภทห้ามสละสิทธิ์ทุกเที่ยวการแข่งขัน และให้อยู่ในดุลยพินิจของ คณะกรรมการจัดการแข่งขัน
  •   

๕. รางวัลการแข่งขันเรือพาย

  • ๕.๑ รางวัลเรือประเภทฝีพายภายในตำบล
    • ๕.๑.๑ เรือชนะเลิศ
      รับถ้วยรางวัลพระราชทาน
      พร้อมเงินสด ๑๐๐,๐๐๐ บาท
    • ๕.๑.๒ เรือรองชนะเลิศอันดับที่ ๑
      รับถ้วยรางวัล
      พร้อมเงินสด ๘๐,๐๐๐ บาท
    • ๕.๑.๓ เรือรองชนะเลิศอันดับที่ ๒
      รับถ้วยรางวัล
      พร้อมเงินสด ๖๐,๐๐๐ บาท
    • ๕.๑.๔ เรือรองชนะเลิศอันดับที่ ๓
      รับถ้วยรางวัล
      พร้อมเงินสด ๔๐,๐๐๐ บาท
  • ๕.๒ รางวัลเรือประเภทนักเรียน/เยาวชน
    • ๕.๒.๑ เรือชนะเลิศ
      รับถ้วยรางวัลพระราชทาน
      พร้อมเงินสด ๘๐,๐๐๐ บาท
    • ๕.๒.๒ เรือรองชนะเลิศอันดับที่ ๑
      รับถ้วยรางวัล
      พร้อมเงินสด ๖๐,๐๐๐ บาท
    • ๕.๒.๓ เรือรองชนะเลิศอันดับที่ ๒
      รับถ้วยรางวัล
      พร้อมเงินสด ๔๐,๐๐๐ บาท
    • ๕.๒.๔ เรือรองชนะเลิศอันดับที่ ๓
      รับถ้วยรางวัล
      พร้อมเงินสด ๓๐,๐๐๐ บาท
  • ๕.๓ รางวัลเรือประเภทฝีพายภายในจังหวัดชุมพร
    • ๕.๓.๑ เรือชนะเลิศ
      รับถ้วยรางวัลพระราชทาน
      พร้อมเงินสด ๑๐๐,๐๐๐ บาท
    • ๕.๓.๒ เรือรองชนะเลิศอันดับที่ ๑
      รับถ้วยรางวัล
      พร้อมเงินสด ๘๐,๐๐๐ บาท
    • ๕.๓.๓ เรือรองชนะเลิศอันดับที่ ๒
      รับถ้วยรางวัล
      พร้อมเงินสด ๖๐,๐๐๐ บาท
    • ๕.๓.๔ เรือรองชนะเลิศอันดับที่ ๓
      รับถ้วยรางวัล
      พร้อมเงินสด ๔๐,๐๐๐ บาท
  • ๕.๔ รางวัลประเภทฝีพายทั่วไป
    • ๕.๔.๑ เรือชนะเลิศ
      รับถ้วยรางวัลพระราชทาน
      พร้อมเงินสด ๑๐๐,๐๐๐ บาท
    • ๕.๔.๒ เรือรองชนะเลิศอันดับที่ ๑
      รับถ้วยรางวัล
      พร้อมเงินสด ๘๐,๐๐๐ บาท
    • ๕.๔.๓ เรือรองชนะเลิศอันดับที่ ๒
      รับถ้วยรางวัล
      พร้อมเงินสด ๖๐,๐๐๐ บาท
    • ๕.๔.๔ เรือรองชนะเลิศอันดับที่ ๓
      รับถ้วยรางวัล
      พร้อมเงินสด ๔๐,๐๐๐ บาท
  • ๕.๕ รางวัลเรือประเภทเรืออนุรักษ์(เรือขุด)
    • ๕.๕.๑ เรือชนะเลิศ
      รับถ้วยรางวัลพระราชทาน
      พร้อมเงินสด ๘๐,๐๐๐ บาท
    • ๕.๕.๒ เรือรองชนะเลิศอันดับที่ ๑
      รับถ้วยรางวัล
      พร้อมเงินสด ๖๐,๐๐๐ บาท
    • ๕.๕.๓ เรือรองชนะเลิศอันดับที่ ๒
      รับถ้วยรางวัล
      พร้อมเงินสด ๔๐,๐๐๐ บาท
    • ๕.๕.๔ เรือรองชนะเลิศอันดับที่ ๓
      รับถ้วยรางวัล
      พร้อมเงินสด ๓๐,๐๐๐ บาท
  • หมายเหตุ
    ๑.
    เรือทุกลำรับค่าชักลาก ทีม ลำละ ๒๐,๐๐๐ บาท (ยกเว้นเรือที่ได้รับเงินรางวัล จะไม่ได้รับค่าชักลาก)
    ๒.
    เรือที่สมัครเข้าแข่งขันทุกประเภท หากเป็นเรือลำเดียวกัน สังกัดเดียวกัน จะได้รับค่าชักลากเพียงประเภทเดียว

๖. คุณสมบัติ/หลักฐานของฝีพายเรือประเภทฝีพายภายในตำบล

ฝีพายจำนวน ๔๐ ฝีพาย (ลงพายได้ ๓๐ - ๓๒ ฝีพาย)

  • คุณสมบัติฝีพาย มีรายละเอียดดังนี้
  • ๖.๑
    เป็นผู้นำชุมชน (กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, แพทย์, ผู้ช่วยฯ, สารวัตรกำนัน,นายก และทีมบริหาร,สมาชิก) จำนวนไม่น้อยกว่า ๑๕ คน ยกเว้น ตำบลที่มีหมู่บ้านต่ำกว่า ๑๐ หมู่บ้าน ให้รวมข้าราชการในตำบล ได้ จำนวนไม่เกิน ๕ คน และให้มีผู้นำจำนวนไม่น้อยกว่า ๑๐ คน (ในแต่ละเที่ยวการแข่งขัน )
    เทศบาลเมือง (นายก, รองนายก, ที่ปรึกษา, ประธานและรองประธานชุมชน) จำนวนไม่น้อยกว่า๑๕ คน
  • ๖.๒
    ประชาชนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในตำบลนั้นๆ ไม่น้อยกว่า ๑๐ ปี (ถึงวันแข่งขัน ) และไม่จำกัดอายุ
    เทศบาลเมือง เป็นบุคคลที่สังกัดหรือมีภูมิลำเนาในเขตเทศบาล ไม่น้อยกว่า ๑๐ ปี (ถึงวันแข่งขัน) และไม่จำกัดอายุ
    • ๖.๒.๑
      กรณีบุคคลที่เป็นทหารเกณฑ์ซึ่งปลดประจำการแล้วสามารถเป็นฝีพายเรือตามภูมิลำเนาเดิม ในตำบลนั้นๆได้
    • ๖.๒.๒
      กรณีเป็นบุคคลที่ย้ายภายในอำเภอจะลงทำการแข่งขันได้ต้องย้ายครบ ๑ ปี (ถึงวันแข่งขัน) จึงสามารถลงทำการแข่งขันได้
  • ๖.๓
    ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานจ้างของหน่วยงานที่ทำงานอยู่ในตำบล/เทศบาล (ไม่น้อยกว่า ๑ ปีและมีสัญญาจ้าง)
  • ๖.๔
    ประชาชนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดชุมพร จำนวน ๓ คน และไม่จำกัดอายุ
  • ๖.๕
    เรือที่สมัครเข้าทำการแข่งขันต้องส่งหลักฐานดังนี้
    • - ใบสมัคร
    • - รายชื่อฝีพายเรือ
    • - ภาพถ่ายฝีพายเรือ
    • ๖.๕.๑
      หลักฐานฝีพายตามข้อ ๖.๑ ประกอบด้วย
      • - สำเนาบัตร แสดงความเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหากไม่มีบัตรให้ใช้ใบรับรอง
    • ๖.๕.๒
      หลักฐานฝีพายเรือตามข้อ ๖.๒ ประกอบด้วย
      • - บัตรประชาชน
      • - สำเนาทะเบียนบ้าน
    • ๖.๕.๓
      หลักฐานฝีพายเรือตามข้อ ๖.๓ ประกอบด้วย
      • - บัตรประชาชน
      • - สัญญาจ้างของหน่วยงาน
      • - หนังสือรับรองจากต้นสังกัดติดภาพถ่าย
    • ๖.๕.๔
      หลักฐานฝีพายเรือตามข้อ ๖.๔ ประกอบด้วย
      • - บัตรประชาชน
      • - สำเนาทะเบียนบ้าน
  • ๖.๖
    นายหัวเรือต้องเป็นคนที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น และต้องส่งหลักฐานต่าง ๆ ภายในวันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ถ้าไม่ส่งในวันดังกล่าวถือว่าสละสิทธิ์

๗. คุณสมบัติ/หลักฐานของฝีพายเรือประเภทนักเรียน/เยาวชน

  • คุณสมบัติฝีพาย มีรายละเอียดดังนี้
  • ๗.๑
    ต้องมีอายุไม่เกิน ๑๘ ปี (การนับอายุให้ถือเอา พ.ศ. เกิด เป็นหลัก)
  • ๗.๒
    ฝีพายเรือทุกคนต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดชุมพรไม่น้อยกว่า ๑ ปี (ก่อนวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๖)
    • ๗.๒.๑
      หากฝีพายมีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด แต่มาศึกษาอยู่ในสถานศึกษานั้นๆ ต้องแนบ เอกสารดังนี้
    • ๗.๒.๒
      กรณีฝีพายเรือเป็นลูกจ้างในสถานศึกษานั้นๆ ให้แนบสัญญาจ้างที่มีอายุสัญญาจ้างไม่น้อย กว่า ๖ เดือน
    • ๗.๒.๑.๑
      หนังสือแสดงผลการเรียนภาคเรียนล่าสุด (๑/๒๕๖๗)
    • ๗.๒.๑.๒
      หนังสือรับรองความเป็นนักเรียน-นักศึกษา โดยหัวหน้าสถานศึกษา
  • ๗.๓
    สามารถนำฝีพายเรือจากบุคคลภายนอกที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดชุมพรได้ ๓ คน
    • ๗.๓.๑
      กรณีฝีพายเป็นบุคคลภายนอกที่กำลังศึกษาหรือปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสถานศึกษานั้นๆ แต่มี ภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด ให้หัวหน้าสถานศึกษาออกหนังสือรับรองการปฏิบัติหน้าที่/ ใบ แสดงผลการเรียน/หนังสือรับรองความเป็นนักเรียน-นักศึกษา
  • ๗.๔
    ฝีพายเรือลำหนึ่งมีได้ ๔๐ คน (ลงพายได้ ๓๐-๓๒ ฝีพาย)
  • ๗.๕
    เรือที่สมัครเข้าทำการแข่งขันต้องส่งหลักฐานดังนี้
    • - ใบสมัคร
    • - บัญชีรายชื่อฝีพาย
    • - ภาพถ่ายของฝีพาย
    • - สำเนาบัตรประชาชนของฝีพาย
    • - สำเนาทะเบียนบ้านของฝีพาย
  • ๗.๖
    ต้องส่งหลักฐานต่างๆ ภายในวันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ถ้าไม่ส่งในวันดังกล่าวถือว่าสละสิทธิ์ ในการแข่งขัน

๘. คุณสมบัติ/หลักฐานของฝีพายเรือประเภทฝีพายภายในจังหวัดชุมพร

ฝีพายจำนวน ๔๐ ฝีพาย (ลงพายได้ ๓๐ - ๓๗๒ ฝีพาย)

  • คุณสมบัติฝีพายมีรายละเอียดดังนี้
  • ๘.๑
    ต้องเป็นบุคคลที่มีชื่อในทะเบียนบ้านจังหวัดชุมพรอย่างน้อย ๑๐ ปี นับถึงวันแข่งขัน
  • ๘.๒
    เรือที่สมัครเข้าทำการแข่งขันต้องส่งหลักฐานดังนี้
    • - ใบสมัคร
      - บัญชีรายชื่อฝีพาย
      - ภาพถ่ายของฝีพาย
      - สำเนาบัตรประชาชนของฝีพาย
      - สำเนาทะเบียนบ้านของฝีพาย
  • ๘.๓
    ฝีพายเยาวชนทีมชาติที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดชุมพรไม่น้อยกว่า ๑๐ ปี สามารถลงทำการแข่งขันใน เรือประเภทนี้ได้และต้องส่งหลักฐานต่าง ๆ ภายใน วันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ถ้าไม่ส่งในวัน ดังกล่าวถือว่าสละสิทธิ์ในการแข่งขัน

๙. คุณสมบัติ/หลักฐานของฝีพายเรือประเภทฝีพายทั่วไป

  • คุณสมบัติฝีพายมีรายละเอียดดังนี้
  • ๙.๑
    ฝีพายนานาชาติสามารถเข้าทำการแข่งขันได้ (ลาว,เขมร,พม่า)
  • ๙.๒
    สำหรับฝีพายทีมชาติ สามารถส่งได้ไม่เกิน ๔ คน (ติดทีมชาติชุดปัจจุบันปีล่าสุด )
  • ๙.๓
    ฝีพายเรือลำหนึ่งมีได้ ๔๐ คน (ลงพายได้ ๓๐-๓๒ ฝีพาย)
  • ๙.๔
    เรือที่สมัครเข้าทำการแข่งขันต้องส่งหลักฐานดังนี้
    • - ใบสมัคร
      - บัญชีรายชื่อฝีพาย
      - สำเนาหนังสือเดินทาง(พาสปอร์ต)
      - ภาพถ่ายฝีพายเรือ

๑๐.คุณสมบัติ/หลักฐานของฝีพายเรือประเภทเรืออนุรักษ์

  • คุณสมบัติฝีพายมีรายละเอียดดังนี้
  • ๑๐.๑
    ต้องมีอายุไม่เกิน ๑๘ ปี (การนับอายุให้ถือเอาพ.ศ. เกิด เป็นหลัก)
  • ๑๐.๒
    ฝีพายเรือทุกคนต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดชุมพรไม่น้อยกว่า ๑ ปี (ก่อนวันที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๖)
    • ๑๐.๒.๑
      หากฝีพายมีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด แต่มาศึกษาอยู่ในสถานศึกษานั้นๆ ต้องแนบ เอกสาร ดังนี้
    • ๑๐.๒.๑.๑
      หนังสือแสดงผลการเรียนภาคเรียนล่าสุด (๑/๒๕๖๗)
    • ๑๐.๒.๑.๒
      หนังสือรับรองความเป็นนักเรียน-นักศึกษา โดยหัวหน้าสถานศึกษา
  • ๑๐.๓
    สามารถนำฝีพายเรือจากบุคคลภายนอกที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดชุมพรได้ ๓ คน
    • ๑๐.๓.๑
      กรณีฝีพายเป็นบุคคลภายนอกที่กำลังศึกษาหรือปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสถานศึกษานั้นๆ แต่มี ภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด ให้หัวหน้าสถานศึกษาออกหนังสือรับรองการปฏิบัติหน้าที่/ ใบ แสดงผลการเรียน/หนังสือรับรองความเป็นนักเรียน-นักศึกษา
  • ๑๐.๔
    ฝีพายเรือลำหนึ่งมีได้ ๔๐ คน (ลงพายได้ ๓๐-๓๒ ฝีพาย)
  • ๑๐.๕
    เรือที่สมัครเข้าทำการแข่งขันต้องส่งหลักฐานดังนี้
    • - ใบสมัคร
      - บัญชีรายชื่อฝีพาย
      - ภาพถ่ายของฝีพาย
      - สำเนาบัตรประชาชนของฝีพาย
      - สำเนาทะเบียนบ้านของฝีพาย
  • ๑๐.๖
    ต้องส่งหลักฐานต่างๆ ภายในวันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ถ้าไม่ส่งในวันดังกล่าวถือว่าสละ สิทธิ์ในการแข่งขัน

คณะกรรมการฝ่ายจัดการแข่งขัน
งานประเพณีแห่พระแข่งเรือขึ้นโขนชิงธงชิงโล่และถ้วยพระราชทาน
อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร
ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๗


กติกาการแข่งขันเรือยาวขึ้นโขนชิงธง
งานประเพณีแห่พระแข่งเรือขึ้นโขนชิงธงชิงโล่และถ้วยพระราชทาน
อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร
ณ สนามแข่งเรือแม่น้ำหลังสวน (ท่าน้ำวัดด่านประชากร)
วันที่ ๑๘ - ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗

๑. สนามแข่งขัน

  • สนามแข่งเรือแม่น้ำหลังสวน จากจุดปล่อยเรือบริเวณใต้สะพานรถไฟ ถึงเรือตัดสิน บริเวณหน้าวัดด่านประชากร ระยะทางประมาณ ๕๐๐ เมตร

๒. ประเภทเรือที่จัดแข่งขัน

  • ๒.๑ เรือประเภทฝีพายทั่วไป
          หมายถึงเรือใน ๑๔ จังหวัดภาคใต้ ฝีพายเป็นฝีพายท้องที่หรือต่างจังหวัด
    เรือบรรจุฝีพาย ๓๐-๓๒ คน
  • ๒.๒ เรือประเภทฝีพายภายในจังหวัดชุมพร
          หมายถึงเรือและฝีพายในจังหวัดชุมพรเท่านั้น
    เรือบรรจุฝีพาย ๓๐-๓๒ คน
  • ๒.๓ เรือประเภทฝีพายภายในตำบล
          หมายถึงเรือและฝีพายต้องเป็นคนในตำบลนั้นๆ เท่านั้น
    เรือบรรจุฝีพาย ๓๐-๓๒ คน
  • ๒.๔ เรือประเภทนักเรียน/เยาวชน
          หมายถึง เรือและฝีพายนักเรียน-เยาวชน ในจังหวัดชุมพรเท่านั้น
    เรือบรรจุฝีพาย ๓๐-๓๒ คน
  • ๒.๕ เรือประเภทอนุรักษ์ (เรือขุด)
          หมายถึงเรือและฝีพายเป็นนักศึกษา ในจังหวัดชุมพรเท่านั้น
    เรือบรรจุฝีพาย ๓๐-๓๒ คน

๓. การแข่งขันและการนับคะแนน

  • ๓.๑ 
    การแข่งขันในเที่ยวแรกทุกรอบ คู่แข่งขันต้องจับฉลากสายน้ำและเปลี่ยนสายน้ำในเที่ยวที่สอง
  • ๓.๒ 
    การแข่งขันเรือทุกประเภทในรอบแรก รอบสอง และรอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อเรือคู่แข่งขันมีคะแนนเท่ากัน ให้ถือปฏิบัติดังนี้
    • ๓.๒.๑  
      หากเรือมีคะแนนเป็นอันดับที่หนึ่งเท่ากัน ๒ ลำ ให้จับฉลากหาเรือที่มีคะแนนเป็นอันดับที่หนึ่งและอันดับที่สอง
    • ๓.๒.๒  
      หากเรือมีคะแนนเป็นอันดับที่หนึ่งเท่ากันจำนวน ๓ ลำ ให้จับสลากเข้ารอบต่อไป ๑ ลำก่อน ส่วนอีก ๒ ลำ จับฉลากสายน้ำพายแข่งขัน ๑ เที่ยว หากคะแนนเท่ากันอีกก็ทำเช่นเดิม จนกว่าจะแพ้ชนะ และ เมื่อได้ผู้ชนะแล้วให้จับฉลากหาเรือที่มีคะแนนเป็นอันดับที่หนึ่ง และอันดับที่สอง
    • ๓.๒.๓  
      หากเรือมีคะแนนเป็นอันดับที่หนึ่ง จำนวน ๔ ลำ ให้จับฉลายพายแข่งขันเป็น ๒ คู่ โดยจับฉลาก สายน้ำพายแข่งขัน ๑ เที่ยว และเมื่อได้ผู้ชนะแล้วให้จับฉลากหาเรือที่มีคะแนนเป็นอันดับที่หนึ่ง และ อันดับที่สอง
    • ๓.๒.๔  
      หากเรือมีคะแนนเป็นอันดับที่สองเท่ากันจำนวน ๒ ลำ ให้จับฉลากสายน้ำพายแข่งขัน ๑ เที่ยว หากมี คะแนนเท่ากันอีก ก็ทำเช่นเดิมจนกว่าจะแพ้ชนะ
    • ๓.๒.๕  
      หากเรือมีคะแนนเป็นอันดับที่สองเท่ากันจำนวน ๓ ลำ ให้จับสลากตั้งไว้ ๑ ลำ เพื่อรอแข่งขันหาที่ สอง และให้เรืออีกสองลำ จับฉลากสายน้ำพายแข่งขัน ๑ เที่ยว จนกว่าจะได้เรือชนะ และเมื่อได้ผู้ ชนะแล้วให้จับฉลากสายน้ำพายแข่งขัน ๑ เที่ยว กับเรือที่ตั้งไว้ จนกว่าจะได้เรือผู้ชนะ ที่มีคะแนน เป็นอันดับที่สองเพียงลำเดียว
  • ๓.๓ 
    การแข่งขันเรือทุกประเภทในรอบรองชนะเลิศ รอบชิงชนะเลิศ หากเรือคู่แข่งมีคะแนนเท่ากัน ให้จับฉลากพาย แข่งขัน ๑ เที่ยว หากคะแนนเท่ากันอีก ก็ทำเช่นเดิมจนกว่าจะแพ้ชนะ
  • ๓.๔ 
    การนับคะแนน
    • ๓.๔.๑  
      เรือชนะได้ ๒ คะแนน
    • ๓.๔.๒  
      เรือเสมอได้ ๑ คะแนน
    • ๓.๔.๓  
      เรือแพ้ได้ 0 คะแนน
๔.
เรือทุกลำต้องเข้าถึงสนามแข่งขัน และเข้าแข่งขันตามเวลาที่กำหนด และห้ามสละสิทธิ์
๕.
เรือคู่แข่งขันลำใดทุจริตเปลี่ยนเรือเข้าแข่งขัน ปรับเป็นแพ้ตั้งแต่เที่ยวนั้นตลอดปีแข่งขัน
๖.
เรือลำใดพายล้ำสายน้ำปรับเป็นแพ้ในเที่ยวนั้น
๗.
ฝีพายเรือหรือนายหัวเรือลำใดทิ้งพายหรือวัดุอื่นใดเข้าหาคู่แข่งขัน ปรับเป็นแพ้ในเที่ยวนั้น
๘.
ผู้จับแถบธง(หวายธง) ต้องเป็นนายหัวเรือเพียงผู้เดียว หากฝีพายอื่นจับแถบชัยไปได้ปรับเป็นแพ้ในเที่ยวนั้น เว้นแต่นาย หัวตกจากเรือก่อนถึงเส้นชัย ให้นายหัวเรือจับแถบชัยแทนนายหัวเรือได้
๙.
นายหัว หรือรองนายหัวต้องจับแถบชัยด้วยมือ ถ้าใช้วัสดุอื่นใดช่วยจับดึงแถบชัย ปรับแพ้ในเที่ยวนั้น
๑๐.
นายหัวรองนายหัวเรือกระโดดจับแถบชัย ปรับเป็นแพ้ในเที่ยวนั้น
๑๑.
นายหัวเรือ รองนายหัวเรือ หลุดจากตัวเรือตกน้ำขณะจับแถบชัย ก่อนที่โขนท้ายเรือพ้นกระบอกธงเรือตัดสินปรับเป็น แพ้ในเที่ยวนั้น เว้นแต่เหตุสุดวิสัยเรือล่มทั้งลำโดยที่นายหัวเรือมิได้ตกน้ำไปตามลำพัง ถ้านายหัวจับแถบธงชัยไปได้ ก็ ถือว่ามีผลการแข่งขันในเที่ยวนั้น
๑๒.
เรือลำใดใช้ไม้พาย หรือวัสดุอื่นใดต่อโขนออกไปเพื่อจับแถบชัย ปรับแพ้ในเที่ยวนั้น
๑๓.
เรือลำใดเข้าสู่เส้นชัยตามระเบียบการแข่งขัน และจับแถบธงชัยไปได้ตามกติกาการแข่งขันเป็นเรือผู้ชนะในเที่ยวการ แข่งขัน ถ้าได้ไปแต่แถบผ้าไม่มีหวายถือเป็นแพ้ ถ้าจับแถบชับได้ลำละแถบชัย ตัดสินให้เสมอกัน ถ้าเรือคู่แข่งขันทั้ง สองลำต่างก็จับแถบชัยไม่ได้ ให้ถือว่าไม่ได้คะแนนทั้งสองลำ
๑๔.
เวลาปิดการแข่งขันประจำวัน กำหนดเวลา ๑๘.๐๐ น.ถ้าเรือคู่แข่งขันเข้าเทียบทุ่นปล่อยเรือก่อนเวลา ๑๘.๐๐ น. หรือ เวลา ๑๘.๐๐ น.พอดีและมีเหตุให้ต้องปล่อยเรือได้หลังเวลา ๑๘.๐๐น. ก็ต้องทำการแข่งขัน หากเรือลำใดไม่ยอมพาย แข่งขัน ให้ปรับเป็นแพ้ในเที่ยวนั้น
๑๕.
การกำหนดวันเวลาการแข่งขัน การรับสมัครและการจัดการแข่งขัน ข้อปฏิบัติในการส่งเรือเข้าแข่งขันและรางวัลการ แข่งขัน ให้เป็นไปตามระเบียบซึ่งคณะกรรมการจัดการแข่งขันในแต่ละปีเป็นผู้กำหนด
๑๖.
การตัดสินของคณะกรรมการ คณะกรรมการเปรียบเรือ คณะกรรมการปล่อยเรือ คณะกรรมการตัดสินเรือ และ คณะกรรมการจัดการแข่งขันถือเป็นเด็ดขาดและสิ้นสุด
๑๗.
ข้อความใดที่ไม่ได้กำหนดไว้ในกติกานี้ ให้อยู่ในดุลพินิจ ของคณะกรรมการจัดการแข่งขันเป็นผู้ชี้ขาด

คณะกรรมการฝ่ายจัดการแข่งขัน
งานประเพณีแห่พระแข่งเรือขึ้นโขนชิงธงชิงโล่และถ้วยพระราชทาน
อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร
ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๗