ต้นตำรับ “ขึ้นโขน-ชิงธง”

เอกลักษณ์มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของลุ่มน้ำหลังสวน
หนึ่งเดียวในสยามและมรดกชาติ

โดย กฤษฎา บุษบรรณ / กัณฐ์เกษม จาวยนต์

เอกลักษณ์เฉพาะถิ่นที่ไม่เหมือนใครของการแข่งเรือยาวประเพณีของอำเภอหลังสวน ซึ่งมีความแตกต่างจากการแข่งขันเรือยาวในจังหวัดอื่นๆ ที่บรรพบุรุษชาวลุ่มน้ำหลังสวนได้สร้างสรรค์ไว้และได้ตกทอดต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน คือ ไม่ได้ตัดสินผลการแพ้-ชนะกันที่ความเร็วว่าเรือลำไหนเข้าเส้นชัยก่อน แต่การแข่งเรือที่สนามแม่น้ำหลังสวน ตัดสินผลแพ้-ชนะด้วยการ “ขึ้นโขน-ชิงธง” คือใช้วิธีการจับหวายแถบธงเป็นเกณฑ์ในการตัดสินผลแพ้-ชนะในการแข่งขัน เพราะฉะนั้นความเร็วของเรืออาจจะไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาดของความเป็นผู้ชนะ จึงได้มีกฎเกณฑ์กติกาอันเป็นมรดกภูมิปัญญา ที่แตกต่างจากการแข่งเรือยาวประเพณีในสนามอื่นๆในประเทศไทย

ซึ่งเรือที่จะชนะโดยสมบูรณ์ของการแข่งขันเรือยาวที่สนามแม่น้ำหลังสวนนั้น คือเป็นเรือที่นายหัวเรือต้องปีนขึ้นไปบนโขนเรือ (หัวเรือ) แล้วชิงจับแถบธงให้ได้ก่อน โดยต้องอาศัยความสัมพันธ์ที่ประกอบกันของทั้งฝีพายเรือ ที่ต้องสามัคคีจ้วงไม้พายลงน้ำกันอย่างพร้อมเพรียงและสุดกำลัง เพื่อส่งให้ลำเรือพุ่งทะยานไปข้างหน้า นำเรือของคู่แข่งอย่างรวดเร็ว ส่วนนายท้ายเรือก็ต้องทักษะในการคัดท้ายเรือ ให้เรือวิ่งตรงกับแนวของแถบธง ที่ห้อยปลายออกจากกระบอกธงบนเรือตัดสิน และที่สำคัญนายหัวเรือก็ต้องมีประสบการณ์ ต้องมีจังหวะไหวพริบ มีความรวดเร็วในการไต่ขึ้นไปบนโขนให้สุดปลายเพื่อคว้าแถบธงมาครองให้ได้ แต่ถ้าหากนายหัวเรือคว้าธงได้แต่พลัดตกน้ำเสียก่อน ก็ถือว่าแพ้ในเที่ยวนั้น

ความสนุกของการแข่งขันที่ต้องแย่งชิงธงของนายหัวเรือและการต้องปีนขึ้นไปบนโขนเรือนี่เอง ที่เป็นทั้ง “ศาสตร์” และ “ศิลป์” อันเป็นเอกลักษณ์และเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษชาวลุ่มน้ำหลังสวนได้สร้างสรรค์เอาไว้ให้กับชนรุ่นหลังอย่างมีคุณค่า โดยไม่เหมือนกับที่ไหนในประเทศไทยหรือในโลก และได้มีการรักษาสืบสานโดยต่อเนื่องกันมาจนปัจจุบัน นับเป็นวิธีการตัดสินผลแพ้–ชนะของการแข่งขันได้อย่างยุติธรรม ไม่มีข้อโต้แย้ง ไร้ข้อกังขา โดยไม่ต้องใช้เทคโนโลยีใดๆมาตัดสินผลแพ้-ชนะ ทั้งยังอย่างสร้างความสนุกสนาน ตื่นเต้นเร้าใจ ให้กับผู้มาชมมาเชียร์เป็นอย่างมาก

ซึ่งที่หลังสวนเป็นต้นตำรับ และมีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ยกย่องให้เป็น “หนึ่งในสยาม” และ อันซีนไทยแลนด์ ( UNSEEN THAILAND ) เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๗

กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ประกาศให้ “การแข่งเรือยาวขึ้นโขนชิงธง” ขึ้นบัญชีเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ด้านการเล่นพื้นบ้าน กีฬาพื้นบ้าน และศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๑

และคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ได้คัดเลือกให้ “โครงการงานประเพณีแห่พระแข่งเรือขึ้นโขนชิงธง มรดกวัฒนธรรมลุ่มน้ำหลังสวน โดยชุมชนลุ่มน้ำหลังสวน จังหวัดชุมพร” เป็น ๑ ใน ๑๐ โครงการดีเด่นในการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๒

“การขุดเรือยาว อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร” โดยการนำเสนอของสภาวัฒนธรรมจังหวัดชุมพร ยังได้รับการขึ้นบัญชี “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ประจำปี ๒๕๖๖” ประเภทการส่งเสริมและรักษาอย่างเร่งด่วน ด้านงานช่างฝีมือดั้งเดิม

ในอดีตการแข่งขันเรือยาวประเพณีในงานประจำปีของอำเภอหลังสวนไม่ได้มีกติกาเป็นลายลักษณ์อักษร มีเพียงข้อตกลงร่วมกันของเรือที่เข้าร่วมแข่งขัน ต่อมาได้มีการส่งเรือเข้าแข่งขันเพิ่มมากขึ้น ทั้งจำนวนเรือและประเภทการแข่งขัน การแข่งขันจึงได้พัฒนาสร้างกฎกติกาขึ้น เพื่อแก้ปัญหา ข้อขัดแย้ง โดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านของบรรพบุรุษชาวลุ่มน้ำหลังสวนเป็นหลักสำคัญ ซึ่งปัจจุบันการแข่งขันเรือยาว “ขึ้นโขน-ชิงธง” ได้เริ่มเป็นที่แพร่หลายไปในหลายๆสนามของการแข่งขันเรือยาวประเพณี